ชนิดของคำไทย
ชนิดของคำในภาษาไทย แบ่งได้เป็น
7 ชนิด คือ
คำนาม คำสรรพนาม คำกริยา
คำวิเศษณ์ คำบุพบท คำสันทาน
คำอุทาน (วันเพ็ญ เทพโสภา.
2553 :
61-71)
1. คำนาม คือ
คำที่เรียกชื่อ คน สัตว์
สิ่งของต่างๆ ทั้งที่เป็นรูปธรรมและนามธรรม แบ่งได้
5 ชนิด ดังนี้
1.1 สามานยนาม
คือ คำนามที่ใช้เรียกชื่อทั่ว ๆ ไป
เช่น นก หนู
ดิน น้ำ บ้าน
โรงเรียน
1.2 วิสามานยนาม
คือ
คำนามที่ใช้เรียกชื่อเฉพาะ
ตั้งขึ้นเพราะไม่ต้องการให้คำนามนั้นปนกับคำนามอื่นๆ เช่น
อาทิตย์ (วัน) มีนาคม
(เดือน) พิจิตร (จังหวัด)
มะลิ (ดอกไม้)
1.3 สมุหนาม
คือ คำนามที่เรียกชื่อ คน
สัตว์
สิ่งของที่อยู่เป็นหมวดหมู่รวมกัน
เช่น โขลง (ช้างหลายเชือก) ฝูงปลา
(ปลาหลายตัว)
นอกจากนี้ก็มีคำว่า กลุ่ม หมู่ กอง เหล่า
พวก คณะ โหล
สมาคม บริษัท ฝูง
1.4 อาการนาม
คือ
คำนามที่เป็นชื่อกิริยาอาการของคน
สัตว์ และสิ่งของต่าง ๆ อาการนาม
หมายถึง คำกริยาหรือคำวิเศษณ์ จะมีคำว่า
การหรือความ นำหน้าอยู่เสมอ ซึ่งการใช้คำว่าการและความ มีหลักดังนี้
การ
จะใช้นำหน้าคำกริยาที่แสดงในด้านทางกายและวาจา เช่น
การนอน การเดิน การพูด
การฟัง การอ่าน
ความ
จะใช้นำหน้าคำกริยาที่เกี่ยวกับจิตใจ
เช่น ความคิด ความโกรธ
ความตาย ความรัก ความโลภ
และยังใช้นำหน้าคำวิเศษณ์เพื่อบอกลักษณะต่าง ๆ เช่น
ความเร็ว ความดี ความสวย
หมายเหตุ ถ้าการและความ ไม่ได้นำหน้าคำกริยาหรือคำวิเศษณ์ จะถือว่าเป็น
สามานยนาม เช่น
การบ้าน การคลัง การเมือ
ความอาญา ความแพ่ง
1.5 ลักษณนาม คือ
คำนามที่ใช้บอกลักษณะของคำนามนั้น
เพื่อต้องการให้ทราบว่าคำนามนั้นมีลักษณะอย่างไร คำลักษณนามจะอยู่หลังคำวิเศษณ์บอกจำนวนนับเสมอ เช่น
คน 1 คน
ดินสอ 9 แท่ง
ขลุ่ย 1 เลา
ลักษณนามในภาษาไทยแบ่งได้ดังต่อไปนี้
ลักษณนามบอกชนิดของนาม เช่น
ปื้น ใช้กับ เลื่อย
เล่ม ใช้กับ หนังสือ สมุด
อาวุธ เกวียน เข็ม
กรรไกร
เรื่อง ใช้กับ เรื่องราวและคติข้อความต่าง
ๆ
เลา ใช้กับ ปี่ ขลุ่ย
รูป ใช้กับ รูปภาพ ภิกษุ
สามเณร
องค์ ใช้กับ เจดีย์ พระพุทธรูป
เชือก ใช้กับ ช้าง
ใบ ใช้กับ ภาชนะต่าง
ๆ ครก
ใบไม้
ตัว ใช้กับ โต๊ะ เก้าอี้
ตะปู ตุ๊กตา หมา
แมว
สิ่ง, อัน ใช้กับ สิ่งของต่าง ๆ เช่น
แว่นตา
เรือน ใช้กับ นาฬิกา
ลักษณนามบอกอาการของคำนาม เช่น
กำ, ฟ่อน ใช้กับ ของที่มีลักษณะเป็นกำหรือฟ่อน เช่น
ผัก หญ้า ข้าว
มวน ใช้กับ ของที่เป็นมวน เช่น
บุหรี่
ม้วน ใช้กับ ของม้วนเอาไว้ เช่น
การดาษ ยาสูบ
พับ ใช้กับ ของที่พับเอาไว้ เช่น
ผ้าต่าง ๆ
จีบ ใช้กับ ของที่จีบเอาไว้ เช่น
พลู
มัด ใช้กับ ของที่มักเอาไว้ เช่น
ข้าวต้มมัด ฟืน
ลักษณนามบอกสัณฐานลักษณะของนาม
เช่น
กลัก ใช้กับ ของที่เป็นกล่องเล็ก
ๆ เช่น
กลักไม้ขีดไฟ
ก้อน ใช้กับ ของที่มีลักษณะเป็นก้อน เช่น
อิฐ หิน ดิน
ยางลบ
กระบอก ใช้กับ ของที่มีลักษณะกลมยาวและกลวง
เช่น ข้าวหลาม ไม้ ไผ่
ปืน
แท่ง ใช้กับ ของที่ทึบและหนามีรูปยาว
ๆ เช่น
เหล็ก ทอง ดินสอ
หลัง ใช้กับ ของที่มีหลังคา เช่น
บ้าน เรือน มุ้ง
กูบ ประทุน
สาย ใช้กับ ของที่เป็นทางยาว เช่น
ทาง แม่น้ำ ถนน
เส้น ใช้กับ ของที่เป็นเส้นเล็กยาว เช่น
ด้าย สร้อย เชือก
ลวด
ผืน ใช้กับ ของที่แบนบางและกว้างใหญ่ เช่น
พรม ผ้า
คัน ใช้กับ ของที่ใช้ถือหรือลากมีรูปยาว
ๆ เช่น
ช้อน ซอ เบ็ด ร่ม
ธนู รถ ฉัตร
ลักษณนามบอกหมวดหมู่ของนาม เช่น
พวก, เหล่า ใช้กับ คน
สัตว์
สิ่งของที่อยู่รวมกันและมีลักษณะเดียวกัน
กอง ใช้กับ ทหารและใช้กับของที่รวมกันไว้ เช่น
หิน ดิน ทราย
หมู่ ใช้กับ คน สัตว์
และของที่อยู่รวมกันเป็นกลุ่ม
ชุด ใช้กับ คน หรือสิ่งของที่ครบตามอัตรา
ฝูง ใช้กับ คนหรือสัตว์ที่อยู่รวมกันมาก
ๆ
ตับ ใช้กับ จาก ลูกปืน
วง ใช้กับ คนชุดหนึ่ง
ๆ ที่ล้อมวงกันทำสิ่งใดสิ่งหนึ่ง เช่น
เล่น ดนตรี
ตะกร้อ ร้องเพลง
ลักษณนามที่บอกจำนวนและมาตราของคำนาม
เช่น
กุลี ใช้กับ ผ้าที่ห่อรวมกัน
โหล ใช้กับ ของที่รวมกัน 12 สิ่ง
เช่น ปากกา ดินสอ
คู่ ใช้กับ ของที่มีชุดละ 2 สิ่ง
เช่น ช้อนส้อม รองเท้า
ถัง ใช้กับ ข้าวสาร ถั่ว
งา
บาท ใช้กับ เงิน
ปีบ ใช้กับ น้ำ, น้ำตาล
ลักษณนามซ้ำชื่อนาม คือ ไม่มีลักษณนามใช้ ซื้อต้องนำสามานยนามเดิมมาใช้เป็น
ลักษณนาม เช่น
ประเทศ 5 ประเทศ จังหวัด
76
จังหวัด วัด 9 วัด
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น