วันพุธที่ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2557

 5.  คำบุพบท 

 คือ  คำที่ใช้นำหน้าคำนาม  สรรพนาม  คำกริยา  หรือคำวิเศษณ์  เพื่อต้องการบอกตำแหน่งของคำเหล่านั้น  และยังแสดงความสัมพันธ์ระหว่างคำหรือประโยค  ว่าสัมพันธ์กันอย่างไร  เช่น                      เขาทำงานหนังเพื่อเพื่อน  ฉันทำขนมสำหรับถวายพระ                      รถของเขาสีแดงเข้ม  เขาคือเจ้าแห่งขุนเขา                   คำบุพบทแบ่งได้  2  ชนิด  คือ             5.1  คำบุพบทที่ไม่ต้องเชื่อมกับคำอื่น  คือ  บุพบทที่เป็นคำร้องเรียก  จะมีคำว่า  ดูก่อน  ดูกร  ข้าแต่  ดูข้า  เช่น                      ข้าแต่ผู้เป็นเจ้า  ดูกรภิกษุทั้งหลาย             คำร้องเรียกนี้ปัจจุบันไม่นิยมใช้แล้ว  แต่ถ้าจะใช้บทร้องเรียกจะใช้คำสามานยนามหรือวิสามานยนาม  ซึ่งจะเรียกชื่อหรือตำแหน่งกันไป  เช่น                      อาจารย์ครับมีคนมาหา  คุณยายขาคิดถึงจังเลย                      มณีรัตน์กลับมาเมื่อไร             5.2  คำบุพบทที่ต้องเชื่อมกับคำอื่น  คือ  คำบุพบทนี้จะนำหน้าคำนาม  สรรพนามหรือคำกริยาสภาวมาลา  เพื่อต้องการให้ประโยคชัดเจนขึ้น  ซึ่งมีลักษณะการใช้ดังนี้                บุพบทที่นำหน้ากรรมในประโยค  จะมีคำว่า  ซึ่ง  เป็นตัวเชื่อม                 บุพบทที่นำหน้าคำที่แสดงอาการเป็นเจ้าของ  มักมีคำว่า  ของ  แห่ง  เชื่อม  อยู่                 บุพบทที่นำหน้าคำที่เป็นเครื่องใช้  หรือแสดงความสัมพันธ์กัน  มักจะเชื่อมด้วยคำว่า  ทั้ง  กับ  ด้วย  โดย  ตาม                บุพบทที่นำหน้าคำที่เกี่ยวกับการให้หรือผู้รับ  จะมีคำว่า  แด่  แก่  แต่  ต่อ  สำหรับ                บุพบทที่นำหน้าคำเพื่อบอกเวลา  มักมีคำว่า  ตั้งแต่  จนกระทั่ง  เมื่อ  ใน  แต่  เป็นตัวเชื่อม                บุพบทที่นำหน้าคำเพื่อบอกสถานที่  มักมีคำว่า  เหนือ  ใต้  บน  ล่าง  ใน  ขอบ  ชิด  ริม  ถึง  ใกล้  ที่  จาก  เป็นตัวเชื่อม                บุพบทที่นำหน้าคำเพื่อแสดงการเปรียบเทียบ  ซึ่งมีคำว่า  กว่า  เป็นตัวเชื่อม                บุพบทที่นำหน้าคำเพื่อบอกประมาณหรือคาดคะเน  มักเชื่อมด้วยคำว่า  ราว  สัก  เกือบ  หมด  สิ้น  ทั้งหมด  ทั้ง  ตลอด 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น